แต่ในช่วงที่ผ่านมา ลาซาด้าได้สังเกตเห็นว่า การทำงานที่บ้านนั้น ไม่ได้สร้างผลลบต่อผลลัพธ์ของงานที่ออกมา แถมพนักงานหลายคนยังมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับตนเองและครอบครัวได้มากขึ้นด้วย ทางลาซาด้าจึงริเริ่มโปรแกรมการทำงานแบบยืดหยุ่น หรือ Flexible Work Arrangement (FWA) โดยให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้สัปดาห์ละ 2 วัน เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีสุขภาพกายและใจที่ดี ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจของคนทำงานในยุคนี้เลยทีเดียว วันนี้เราจะมาทำความรู้จักโปรแกรมการทำงานแบบยืดหยุ่นนี้กัน  

โปรแกรมการทำงานแบบยืดหยุ่น (Flexible Work Arrangement Program) คืออะไร ?
       โปรแกรมการทำงานแบบยืดหยุ่น หรือ Flexible Work Arrangement (FWA) เป็นโปรแกรมที่สนับสนุนให้พนักงานมีความยืดหยุ่นในการเลือกวันทำงานที่เหมาะสมเองได้ โดยมุ่งเน้นความสำคัญไปที่ผลลัพธ์ของงาน โดยตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 พนักงานลาซาด้าสามารถทำงานที่บ้านได้ 2 วันต่อสัปดาห์ โดยทางบริษัทจะช่วยจัดเตรียมความพร้อมในการทำงานที่บ้านให้ ซึ่งการทำงานในรูปแบบไฮบริดนี้ ช่วยให้พนักงานมีความสมดุลในการใช้ชีวิตและการทำงานมากขึ้น ลดเวลาในการเดินทาง เพิ่มประสิทธิผลในการทำงานและพัฒนาสุขภาวะที่ดี นอกจากนี้ยังสามารถดึงดูดพนักงานใหม่ๆ ไปพร้อมกับการรักษาพนักงานในองค์กรไว้ ทำให้การดำเนินการของธุรกิจมีความต่อเนื่องอีกด้วย

       นอกจากโปรแกรม Flexible Work Arrangement แล้ว ที่ลาซาด้าเค้ายังมีโปรแกรมสำหรับการสร้างสุขภาวะที่ดีในการทำงานที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย ทั้ง

• LazTalk – แบ่งปันความรู้โดยผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ และพนักงานที่มีผลงานโดดเด่นของลาซาด้า
• Pause Wednesday –ส่งเสริมให้พนักงานได้มีช่วงเวลาพักผ่อน ไม่ต้องเข้าประชุมในทุกเช้าวันพุธ ซึ่งเป็นวันกลางสัปดาห์ เพื่อให้พนักงานได้มีเวลาทบทวนหรือเคลียร์งานให้เสร็จ
• LazListen – โปรแกรมช่วยเหลือพนักงาน (Employee assistance program: EAP) ทางด้านสุขภาพจิต
• LazRita – แชตบอตที่ช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับทีมทรัพยากรมนุษย์ เช่น วันหยุด หรือข้อสงสัยอื่นๆ
• วัคซีนโควิด-19 สำหรับพนักงานทุกคน และจัดส่งเซ็ตดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจากโควิด-19 ให้กับพนักงานทุกคน
• LazGo – แอปสำหรับพนักงานใหม่โดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้การเริ่มงานกับลาซาด้าราบรื่นยิ่งขึ้น

       จากการสัมภาษณ์คุณกรกมล ตันตินาม หัวหน้ากลุ่มผู้ดูแลสุขภาวะในที่ทำงาน (Group Lead, Workplace Well-being) บริษัท ลาซาด้า จำกัด เกี่ยวกับการเปิดตัวโปรแกรม Flexible Work Arrangement เพื่อชาวลาซาด้า ได้เปิดเผยว่า การบริหารคนในช่วงแรกของโควิดนั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก เนื่องจากบริษัทในประเทศไทยยังไม่คุ้นชินและยังไม่ได้เรียนรู้ถึงเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้อำนวยความสะดวกสำหรับการทำงานที่บ้านด้วยตัวเอง และในขณะนั้นโรคโควิด เป็นสถานการณ์ที่หลายคนยังไม่รู้วิธีการรับมือ เมื่อมีมาตรการ lockdown ออกมา ทำให้หลายภาคส่วนต้องหยุดชะงักและปรับกลยุทธ์ในการบริหารงาน ในด้าน HR จึงต้องหามาตรการในการแจ้งข่าวสารภายในแก่พนักงาน เช่น การรายงานถึงจำนวนผู้ติดเชื้อ มาตรการ วิธีป้องกันและวิธีดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโควิด ซึ่งทางลาซาด้ามีการให้พนักงาน Work From Home และมีการจัดเตรียม ATK ให้ทำการตรวจทุกครั้งหากมีความจำเป็นต้องเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศพร้อมส่งไปให้ที่บ้าน รวมถึงจัดเตรียมวัคซีนให้พนักงานทุกคนฟรีเพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจของพนักงานทุกคน

       นอกจากนี้ลาซาด้ายังมีวิสัยทัศน์และพันธกิจในเรื่องของการเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยเน้นในเรื่องการให้บริการลูกค้า การสร้างงานหลากหลายตำแหน่ง และการสร้างผลกำไรให้แก่ธุรกิจ SMEs ทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยลาซาด้ามีค่านิยมเดียวกันกับอาลีบาบา ซึ่งช่วยทำให้ลาซาด้าเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งและเป็นผู้นำธุรกิจที่พร้อมก้าวไปข้างหน้า โดยค่านิยมหลัก คือ

1. ลูกค้ามาก่อน ตามด้วยพนักงาน และผู้ถือหุ้น
   1. ความเชื่อใจ ทำให้ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องง่าย
   1. การเปลี่ยนแปลง เป็นสิ่งเดียวที่แน่นอน
   1. ผลงานที่ดีที่สุดในวันนี้ จะเป็นมาตรฐานของเราในวันถัดไป
   1. ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ แล้วจะตอนไหน? ถ้าไม่ใช่เราแล้วจะเป็นใคร?
   1. ใช้ชีวิตอย่างจริงจัง และทำงานอย่างมีความสุข

       ตั้งแต่การระบาดของโควิด-19  ลาซาด้าได้ปรับรูปแบบการทำงานเป็นแบบ Remote Working ทำให้พนักงานหลายคนเริ่มคุ้นชินกับการทำงานจากที่บ้านและการใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น ในขณะเดียวกันลาซาด้าก็ยังคงได้เห็นการทำงานที่มีประสิทธิภาพจากพนักงาน รวมถึงได้เห็นพนักงานที่มี Talent และค้นพบความสามารถที่โดดเด่น ถึงแม้ว่าจะต้องทำงานภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเจอมาก่อน

       ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันของลาซาด้า และริเริ่มโครงการ Flexible Work Arrangement Program (FWA) โครงการที่ให้ความสำคัญกับการทำงานที่ยืดหยุ่น (Flexibility) สร้างสมดุลในการทำงาน (Work-Life Balance) ความเชื่อใจจากพนักงานในองค์กร (Trust) และการให้ความสำคัญกับผลลัพธ์การทำงานที่ขับเคลื่อนด้วยประสิทธิภาพ (Performance-driven outcomes)

       นอกจากให้ความสำคัญกับลูกค้าก่อนเป็นอันดับแรกแล้ว ลาซาด้ายังให้ความสำคัญกับพนักงานมากไม่แพ้กัน เพราะทุกคนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการพัฒนาแพลตฟอร์มและกิจกรรมต่างๆ ลาซาด้าได้พัฒนากิจกรรมที่มีความเหมาะสมกับพนักงานด้วย จึงเป็นที่มาของ Employee Well-being และโปรแกรม Flexible Work Arrangement Program (FWA) รวมทั้งโปรแกรมอื่นๆที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นด้วย

ความแตกต่างระหว่าง Flexible Work Arrangement Program และ Work From Home หรือ Work From Anywhere
       โปรแกรม FWA ของลาซาด้านั้นมุ่งเน้นไปที่สุขภาวะหรือ Well-being ของพนักงานเป็นหลัก โดยพนักงานสามารถกำหนดวันทำงานที่ออฟฟิศ หรือ ที่บ้านในแต่ละสัปดาห์ (ภายใต้บริบทของตำแหน่งงานและความเห็นชอบจากหัวหน้างาน)  ทางบริษัทฯ ได้จัดเตรียมอุปกรณ์ที่เหมาะสมเพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความราบรื่น และยังผลักดันในส่วนของ Work-Life Balance เพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถทำงานได้อย่างมีความสุข รวมถึงมีเวลาให้ตนเอง และครอบครัวมากขึ้นอีกด้วย
       นอกจากนี้ลาซาด้าได้สร้างบรรยากาศการทำงานในออฟฟิศ ให้เป็นที่ที่มีความสนุกสนาน มีความคิดสร้างสรรค์ ทั้งยังส่งเสริมและสนับสนุนพนักงานในการต่อยอดความคิดในด้านต่างๆ เมื่อพนักงานมีความสุขกับการทำงานจากการมี Work-Life Balance แล้ว ผลลัพธ์ของงานนั้นๆ ก็จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการดึงศักยภาพของพนักงานออกมาใช้ได้มากที่สุดอีกด้วย

และถึงแม้สถานการณ์ทั่วโลกจะกลับสู่สภาพปกติ ทางลาซาด้าก็ยังคงใช้นโยบาย FWA ต่อ เนื่องจากทางลาซาด้าเล็งเห็นถึงประโยชน์ของ FWA ในแง่ของ Work-Life Balance และทำให้พนักงานมีความสุขกับการทำงานมากขึ้นนั่นเอง